ประกาศจากเว็บมาสเตอร์  ขณะนี้เว็บไซด์เราประสบณ์ปัญหา เรื่องการเงิน  จึงเปิด ขอรับเงินบริจาคช่วยเว็บไซด์ของเรา จากผู้ใจบุญ เพื่อเป็นทุนในการสร้างผลงานต่อไป  (บริจาคคลิ๊กที่นี่!)



ผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก ตลอด 56 ปีที่ผ่านมา


รูป นี่คือโฉมหน้าของผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก ตลอด 56 ปีที่ผ่านมา

วิธีป้องกันและรักษา "สิว"

วิธีป้องกันง่ายๆ คือ การกำจัดปัจจัยที่ก่อให้เกิดสิว ไม่ให้มันกำเริบ โดยมีข้อแนะนำต่างๆ ดังนี้
  1. นอนหลับให้เพียงพอ - การนอนหลับไม่เพียงพอ อาจเป็นสาเหตุให้เกิดสิวเช่นกัน เนื่องจากร่างกายเราอ่อนแอและเพลีย
  2. อารมณ์ขัน - อารมณ์ขัน ทำให้เรามีความสุข ปราศจากความเครียด ซึ่งความเครียดเป็นสาเหตุของสิว
  3. กินอาหารจำพวกผัก - การที่เรากินอาหารจำพวกผัก จะทำให้เราสามารถล้างพิษออกจากร่างกายได้ และยังมีวิตามินต่างๆ ซึ่งยังช่วยทำให้เราร่างกายแข็งแรงอีกด้วย
  4. กินอาการที่มีไขมันสูงแต่พอดี - หากเราเกิดอาหารไขมันสูงมากๆ เข้า จะทำให้มีไขมันอยู่ในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุอีกประการของการเกิดสิว
  5. ล้างหน้าให้สะอาด - การล้างหน้าให้สะอาดทำให้ใบหน้าของเราไม่สกปรก เป็นอีกหนึ่งวิธีป้องกัน แต่ควรระวัง ไม่ควรล้างหน้าบ่อย เพราะจะทำให้หน้าของเราเสียสมดุล การล้างหน้า ควรล้างเพียง 2 ครั้ง เช้าเย็น ยกเว้น ช่วงที่เสร็จจากกีฬา, ออกกำลังกาย หรือ ช่วงที่คิดว่าหน้าเราสกปรกมากจริง ๆ สามารถล้างหน้าได้ตามต้องการ
  6. ใช้กระดาษซับหน้ามัน - หากหน้าเรามันมากๆ ลองเปลี่ยนมาใช้กระดาษซับหน้ามันแทน เป็นวิธีช่วยอีกทางหนึ่ง ควรซับแต่พอดี ไม่ควรซับทั้งวันจะดูไม่ดีและเสียนิสัย
  7. หลีกเลี่ยงการจับหัวสิว ยุ่งกับผิวให้น้อยที่สุด - เพราะฝ่ามือของเรามีทั้งความสกปรก และ แบคทีเรีย ซึ่งเป็นตัวก่อให้เกิดสิว
  8. ใช้หลังฝ่ามือลูบแทน - หลังฝ่ามือเป็นบริเวณที่เราไม่ยุ่งเกี่ยวมากที่สุด จึงเป็นบริเวณที่ค่อนข้างสะอาด ดังนั้นแล้วการใช้หลังฝ่ามือลูบคลำเล็ก ๆ น้อยๆ ถือว่าไม่ทำให้สกปรกมากนัก แต่เราควรล้างมือให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ
  9. ใช้ยากำจัดหัวสิว - ปัจจุบันมีอยู่ทั่วไปตามศูนย์การค้า
  10. ใช้ยาที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ - วิตามินเอมีสรรพคุณรักษาสิวอยู่ด้วย ซึ่งมียาทาใบหน้าที่มีส่วนผสมของวิตามิน A สุดอยู่ สามารถสอบถามตามร้านขายยาทั่วไป
  11. ใช้ยาอย่างจริงจัง - การใช้ยาที่มีฤทธิ์แรงกว่าเดิม โดยเน้นไปที่ยาประเภท เบนซอย์เพอรอกไซด์ (Benzoyl Peroxide) หรือประเภทที่มีกรดซาลิซีลิก (Salicylic Acid) ที่มีเปอร์เซ็นต์ต่ำ ข้อควรระวัง ควรเริ่มใช้จากเปอร์เซ็นต์ต่ำๆ ไม่ควรใช้เปอร์เซ็นต์สูงๆ จะทำให้ผิวเราแพ้ และอาจเกิดอาการแพ้ยา
  12. ใช้ยาฉีดแบบเฉียบพลัน - แพทย์สามารถฉีดคอร์ติโชน ที่เม็ดสิวเพื่อให้สิวยุบภายในไม่กี่ชั่วโมง
  13. ปรึกษาแพทย์ - หากใช้วิธีต่างๆ ไม่ได้ผล แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์เป็นการดีที่สุด เนื่องจากสิวอาจเกิดจากกรรมพันธุ์ หรือ ฮอร์โมน ซึ่งการปรึกษาแพทย์จึงเป็นทางเลือกสุดท้ายที่ควรทำ ซึ่งปัจจุบัน ยังมีคลินิกรักษาหน้าเปิดอยู่ทั่วไป

ทำไมคนเราถึงฝัน

ทราบหรือไม่ว่า ทำไมคนเราเวลานอนหลับถึงฝันได้ วันนี้เกร็ดความรู้มีเรื่องนี้มาฝากกัน...

นักจิตวิทยาในช่วงศตวรรษที่ 19 หรือ 80-90 ปีที่ผ่านมา

ได้ ศึกษาเรื่องความฝันอย่างจริงจัง เพราะเชื่อว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับจิต ไม่ใช่ลางบอกเหตุในอนาคต กลับจะเป็นตัวบ่งชี้ความนึกคิดก่อนฝันเสียด้วยซ้ำ อย่างทฤษฎีของซิกมันด์ ฟรอยด์ นักจิตวิทยาชาวยิวที่ไปอยู่เยอรมัน แล้วเสียชีวิตที่ออสเตรเลีย ถือเป็นนักจิตวิทยาที่โด่งดังคนหนึ่งของโลก กล่าวไว้ว่า ความฝันเกิดจากจิตใต้สำนึกของคนเรา ซึ่งเป็นแรงผลักดันจาก Id หรือ อิด ซึ่งหมายถึงสัญชาตญาณที่ติดตัวมาแต่กำเนิดและเป็นความแตกต่างระหว่างบุคคล ส่วนจิตใต้สำนึกคือความคิด ความรู้สึกที่เราไม่รู้ พูดง่าย ๆ อีกได้ว่าความคิดความรู้สึกที่ไม่รู้คือจิตใต้สำนึก ส่วนที่รู้ก็ไม่เรียกจิตใต้สำนึก ยกตัวอย่างเช่น ช่วงที่เราตื่นอยู่เราไม่ได้คิดถึงฐานะความเป็นอยู่ แต่กลับฝันว่ามีเงินทองร่ำรวยและมีความสุขมาก นั่นแสดงว่าความรู้สึกลึก ๆ ของเราอยากรวยนั่นเอง

ฟรอยด์ กล่าวด้วยว่า

นอก จากนี้ความฝันอาจเกิดจากความต้องการที่ไม่ได้รับการสนองตอบ ทำให้เกิดความคับข้องใจหรือเก็บกด จึงระบายออกมาเป็นความฝัน เช่น ตั้งใจว่าอยากไปดูฟุตบอลยุโรปทัวร์นาเม้นต์ต่าง ๆ ในสนามจริง ๆ ถึงช่วงฮอต ๆ เช่น บอลโลก บอลยูโร ก็เกิดความอยากอยู่เรื่อย เลยเก็บเอาไปฝัน กรณีนี้รวมไปถึงการหลงไหลได้ปลื้มใครสักคน โดยอาจจะนำไปฝันถึงสาวที่ปิ๊งอยู่ก็ได้ ส่วนการทำนายฝันตามตำราน่าจะเป็นศาสตร์คล้าย ๆ กับการทำนายดวงหรือหมอดู

สุดท้ายนี้ก็ขอให้ทุกคนนอนหลับฝันดีกันทุกคืนเลย.

ขอบคุณ www.sanook.com

ผู้ชายชอบผู้หญิงแบบไหน

อันนี้ผมได้ ไปเก็บมาฝากชาว BeerBc52 กันคับ


"ผู้หญิงที่ผู้ชายชอบ"



ผู้หญิงมิสทีน คือ ไม่ว่าสามีขยับตัวไปทางไหน ต้องการอะไร

เธอต้องเป็นวิ่งถลาเข้ามารับใช้

พร้อมส่งเสียงหวาน ๆ มาด้วย ว่า "มิสทีนมาแล้วค่ะ"





ผู้หญิงกระเบื้อง ซีแพคโมเนีย คือ ต้องสวยด้วย เย็นด้วย

และที่สำคัญต้องมีตราช้าง





ผู้หญิงกาแฟโทรฟี่ คือ ต้องมีรสชาติ แปลก ๆ ใหม่ ๆ รู้จักลุกขึ้นมาเปลี่ยนโน่นนิด นี่หน่อย

เอาใจใส่เนื้อตัวร่างกายของตัวเอง "เพื่อรสชาติที่ไม่จำเจ"





ผู้หญิงไวตามิลค์ คือ ผู้หญิงที่เก่งเรื่องงานบ้าน งานครัว ทำกับข้าวกับปลาได้อร่อย

เรียกว่าถ้าได้เธอมาเป็นภรรยาแล้ว ผู้เป็นสามีจะ "อิ่มสบายท้อง" ไปตลอด





ผู้หญิงบรีสอัลตร้า คือ ดูก็สะอาด ดมก็สะอาด

ไม่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวเป็น "ยายเพิ้ง"





ผู้หญิง TOA คือ ต้องสวย ต้องทนทาน นานนับสิบปี

ไม่ใช่แป๊บเดียวก็แก่หง่อมซะแล้ว





ผู้หญิงแพมเพอร์ส คือ ต้องรู้จริงเรื่องเด็ก

และก็ปล่อยให้สามีไปมีเด็ก ๆ บ้าง" (ประโยคหลังมีหนุ่มๆ

เติมเองเพื่อความสมบูรณ์ค่ะ)





ผู้หญิงจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน คือ ต้องรักตัวเราให้ได้เป็นที่สอง รองจากแม่ของเรา





ผู้หญิงเมอซิเดสเบนซ์ คือ ต้องเป็นสุดยอดยนตรกรรมที่

"โช๊คดี สีใหม่ พวงมาลัยเอี่ยม ขี่เยี่ยมไม่ส่งเสียงดัง แถมช่วงล่างก็ยังเพอร์เฟค"



*************



ขอให้คุณหนุ่มๆโชคดีได้พบสาวที่ถูกใจและสมหวังด้วยนะ คับ

สำหรับท่านที่มีคู่อยู่แล้วก็คงจะภูมิใจในคุณสมบัติของคุณผู้หญิงของคุณเช่นกัน

สมุนไพรเพื่อความงามสำหรับผิวหน้า 7

7. มะขามเปียก (Tamarindus indica Linn)

มะขามเปียกมีประวัติการใช้มายาวนาน ช่วยชำระสิ่งสกปรกจากผิวหนัง เพราะฤทธิ์ที่เป็นกรดอ่อนๆ ในมะขาม จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกจากผิวหนังได้ดี ปัจจุบัน ได้มีหญิงไทยจำนวนมาก ใช้มะขามเปียกผสมน้ำอุ่น และนมสดให้เข้ากันดี พอกบริเวณผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นรอยด้าน เช่น ตาตุ่ม ข้อศอก ฝ่ามือ ที่มีรอยกร้านดำ และบริเวณรักแร้ ขาหนีบ เพื่อให้ผิวหนังที่เป็นรอยดำจางลง ทำให้ผิวขาวนุ่มนวลขึ้น และนมสดจะช่วยบำรุงผิว ให้นุ่มได้

สมุนไพรเพื่อความงามสำหรับผิวหน้า 6

6. น้ำผึ้ง (Apis dorsata)


ได้จากผึ้ง ประกอบด้วยน้ำตาลกลูโคส ฟรุคโตส ขี้ผึ้ง อัลบูมินอยด์ ละอองเกสรดอกไม้ และฮอร์โมนเอสโตรเจน จำนวนเล็กน้อย น้ำผึ้งใช้เป็นส่วนประกอบ ของเครื่องสำอาง ใช้พอกหน้า ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื่น เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลขึ้น น้ำผึ้งยังมีคุณสมบัติช่วยสมานผิว น้ำผึ้ง เป็นเครื่องสำอางจากธรรมชาติ ที่ให้ประโยชน์สูง และหาง่าย นอกจากนี้ ยังใช้น้ำผึ้งบำรุงผม ฮอร์โมนเอสโตรเจน จะช่วยบำรุงหนังศีรษะ และกระตุ้นการงอกของเส้นผม

สมุนไพรเพื่อความงามสำหรับผิวหน้า 5

5. ขมิ้นชัน (Curcuma Longa Linn.)

ในขมิ้น จะมีสาร Curcumin และมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งมีกลิ่นเฉพาะ ขมิ้นมีฤทธิ์ยับยั้ง การเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราหลายชนิด ใช้ทาผิวที่มีผดผื่นคัน ผงขมิ้นใช้ทาตัว เพื่อให้มีสีเหลืองทอง ใช้บำรุงผิว และช่วยฆ่าเชื้อ ที่ทำให้เกิดโรคผิวหนังบางชนิด ได้อีกด้วย

สมุนไพรเพื่อความงามสำหรับผิวหน้า 4

4. มะเขือเทศ (Lycopersicon esculentum Mill.)

ในมะเขือเทศ จะมีสาร Curotenoid และมีวิตามินหลายชนิด น้ำจากผลมะเขือเทศสุก จะมีสาร licopersioin ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อรา และแบคทีเรีย และน้ำมะเขือเทศสด นำมาพอกหน้า จะรักษาสิวสมานผิวหน้าให้เต่งตึง หรืออาจจะฝานบางๆ แปะลงบนผิวหน้าก็ได้

สมุนไพรเพื่อความงามสำหรับผิวหน้า 3

3. แตงกวา (Cucumis sativas Linn.)

จะมีวิตามินสูง ในผลแตงกวายังมีเอ็นไซม์ cryssin ซึ่งช่วยย่อยโปรตีนได้ เอ็นไซม์ชนิดนี้ จะช่วยย่อยผิวหนังที่หยาบกร้าน ให้หลุดออกไป เพื่อให้ผิวใหม่ที่อ่อนนุ่ม เกิดขึ้นมาแทนที่ บางคนใช้แตงกวาสด ผ่าเป็นชิ้นบางๆ วางบนใบหน้าที่ล้างสะอาด แทนน้ำแตงกวา ปัจจุบัน มีน้ำแตงกวาผสมในเครื่องสำอาง เช่น ครีมล้างหน้า ครีมทาตัว เพื่อช้วยให้ผิวไม่หยาบกร้าน และช่วยสมานผิว แตงกวาเป็นสมุนไพร ที่หาง่าย มีประโยชน์ ราคาถูก ใช้ติดต่อกับเป็นประจำ จะทำให้สวนสดชื่น มีน้ำมีนวล

สมุนไพรเพื่อความงามสำหรับผิวหน้า 2

2. งา (Sesamum indicum Linn. S. orientle. L)

เป็นพืชล้มลุก ให้เมล็ดเป็นจำนวนมาก เมล็ดงามีทั้งสีดำ และสีขาว ในเมล็ดงามีน้ำมันอยู่ ประมาณ 45-54% น้ำมันงามีกลิ่นหอมน่ารับประทาน วิธีใช้ โดยการนำเอาเมล็ดงาสด มาบีบน้ำมันงาออก โดยไม่ผ่านความร้อน ใช้ทาผิวหนัง เพื่อบำรุงผิวพรรณ ให้ผุดผ่อง ช่วนประทินผิวให้นุ่มนวล ไม่หยาบกร้าน

สมุนไพรเพื่อความงามสำหรับผิวหน้า 1


ใบหน้า คือ ด่านแรกที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดใจของผู้พบเห็น แต่หลายๆคนกำลังประสบปัญหาผิวหน้าไม่เรียบสวย เพราะเม็ดสิวและรอยแห้งกร้านด้วยจุดด่างดำของกระและฝ้า จนต้องเสียเงินทองมากมายเพื่อเข้าสถานเสริมความงาม หรือหาซื้อยามารักษา จึงอยากแนะนำให้ใช้สมุนไพรพืชผักและผลไม้ที่มีอยู่ทั่วไป แต่มีคุณประโยชน์มากมายทั้งวิตามิน แร่ธาตุ และสารบำรุงผิวธรรมชาติที่ช่วยดูแลผิวพรรณให้ชุ่มชื้นผ่องใสอ่อนไวอยู่เสมอ


1. ว่านหางจระเข้ (Aloe indica Royle)


คุณค่าของว่านหางจระเข้มีมากมาย นอกจากใช้รักษาโรคแล้ว ยังใช้บำรุงผิว บำรุงเส้นผมได้ด้วย ปัจจุบัน จะเห็นได้ว่า มีแชมพูสระผม และเครื่องสำอางหลายอย่าง ที่ใช้ว่านหางจระเข้เป็นส่วนประกอบ และกำลังเป็นที่นิยมของคนทั่วไป เนื่องจากว่านหางจระเข้ มีคุณสมบัติสามารถช่วยให้กระบวนการเมตะโบลิซึม ทำงานได้เป็นปกติ ลดการติดเชื้อ สลายพิษของเชื้อโรค กระตุ้นการเกิดใหม่ ของเนื้อเยื่อส่วนที่ชำรุด ฉะนั้น ว่านหางจระเข้จึงถูกนำมาใช้ เพื่อบำรุงผิวพรรณ ผู้ที่ใช้ว่านหางจระเข้บำรุงผิวพรรณอยู่เป็นประจำ จะรู้สึกได้ชัดว่า ว่านหางจระเข้มีส่วนช่วย ให้ผิวพรรณผุดผ่อง สดชื่น มีน้ำมีนวล และยังสามารถขจัดสิว และลบรอยจุดด่างดำได้ด้วย
การใช้ว่านหางจระเข้ เพื่อบำรุงผิว โดยปอกเปลือกออก ใช้แต่เมือกวุ้นสีขาวใส ที่อยู่ภายใน ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการแพ้ ก่อนใช้ควรตรวจสอบว่า ตนเองจะเกิดอาการแพ้หรือไม่ โดยใช้น้ำที่ได้จากวุ้นสีขาว ของว่านหางจระเข้ ทาตรงบริเวณโคนหู แล้วทิ้งไว้สักครู่ ถ้าเกิดการระคายเคืองเป็นผื่นแดง แสดงว่าแพ้ ไม่เหมาะที่จะใช้กับผิวหน้าอีกต่อไป ถ้าไม่มีอาการแพ้ ก็สามารถใช้ได้ตลอด แต่บางคนก็จะเห็นผลได้เหมือนกัน เมื่อใช้ว่านหางจระเข้ทาบริเวณหัวสิว จะทำให้หัวสิวแห้งเร็ว
นอกจากนี้ ว่านหางจระเข้ยังสามารถลดความแห้งกร้าน และลดความมันของผิวหน้าได้ โดยคนที่มีผิวมัน ก็จะช่วยให้ลดความมัน คนที่มีผิวหน้าแห้ง ก็ยังรักษาความชุ่มชื่นของผิวไว้ได้

สาเหตุของความดันโลหิตสูง

ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงส่านใหญ่ไม่ทราบสาเหตุเรียก primary หรือ essential hypertension เราสามารถควบคุมความดันโลหิตได้แต่รักษาไม่หายดังนั้นจึงจำเป็นต้องป้องกัน ส่วนที่ทราบสาเหตุเรียก secondary hypertension เช่น เนื้องอกต่อมหมวกไต ยาคุมกำเนิด หากทราบสาเหตุสามารถรักษาให้หายขาดได้


Primary hypertension


หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า essential hypertension เป็นความดันโลหิตสูงที่พบมากที่สุดกลุ่มนี้ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่มักจะพบว่าผู้ป่วยกลุ่มนี้มีความสัมพันธ์กับการรับประทานอาหารเค็ม อ้วน กรรมพันธุ์ อายุมาก เชื้อชาติ และการขาดการออกกำลังกาย



Secondary hypertension



เป็นความดันโลหิตสูงที่ทราบสาเหตุ พบได้ประมาณร้อยละ 5 ของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงสาเหตุที่พบได้บ่อยคือ



โรคไต ผู้ป่วยที่มีหลอดแดงที่ไปเลี้ยงไตตีบทั้งสองข้างมักจะมีความดันโลหิตสูง

เนื้องอกที่ต่อมหมวกไตพบได้สองชนิดคือชนิดที่สร้างฮอร์โมน hormone aldosterone ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีความดันโลหิตสูงร่วมกับเกลือแร่โปแตสเซียมในเลือดต่ำ อีกชนิดหนึ่งได้แก่เนื้องอกที่สร้างฮอร์โมน catecholamines เรียกว่าโรค Pheochromocytoma ผู้ป่วยจะมีความดันโลหิตสูงร่วมกับใจสั่น

โรคหลอดเลือดแดงใหญ่ตีบ Coarctation of the aorta พบได้น้อยเกิดจากหลอดเลือดแดงใหญ่ตีบบางส่วนทำให้เกิดความดันโลหิตสูง

ขอบคุณเว็บ http://www.siamhealth.net/

การออกกำลังกาย

การออกกำลังกายไม่ได้หมายถึงการต้องไปแข่งขันกีฬากับผู้อื่น แต่การออกกำลังกายเป็นการแข่งขันกับตัวเอง
หลายคนก่อนจะออกกำลังกายมักจะอ้างเหตุผลของการไม่ออกกำลังกาย เช่น ไม่มีเวลา ไม่มีสถานที่ ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ ปัญหาเกี่ยวกับอากาศ ทั้งหมดเป็นข้ออ้างที่จะไม่ออกกำลังกาย แต่ลืมไปว่าการออกกำลังกายอาจจะให้ผลดีมากกว่าสิ่งที่เขาเสียไป
เป็นที่น่าดีใจว่าการออกกำลังให้สุขภาพดีไม่ต้องใช้เวลามากมาย เพียงแค่วันละครึ่งชั่วโมงก็พอ และก็ไม่ต้องใช้พื้นที่หรือเครื่องมืออะไร มีเพียงพื้นที่ในการเดินก็พอแล้ว การออกกำลังจะทำให้รูปร่างดูดี กล้ามเนื้อแข็งแรง ป้องกันโรคหัวใจ ป้องกันโรคกระดูกพรุน ป้องกันโรคอ้วน การออกกำลังกายทำให้ร่างกายสดชื่น มีพลังที่จะทำงานและต่อสู้กับชีวิต นอกจากนั้นยังสามารถลดความเครียดได้ด้วย

นอนกลางวัน ดีอย่างไร

จากการศึกษาของ Dr.J (นามแฝง) พบว่า ระบบธรรมชาตินั้นต้องการให้ร่างกายเราพักผ่อนอย่างน้อย 2 ครั้งใน 24 ชั่วโมง แสดงว่าไม่ใช่เราจะพักผ่อนนอนหลับตอนกลางคืนอย่างเดียวนะครับ แต่เราต้องแอบ(หรือเปิดเผย) งีบ ในตอนเที่ยงวันด้วย
ในการหาเหตุผลในการนอนกลางวัน Dr.J ขอแนะนำท่านให้รู้จกกับ source code ของระบบธรรมชาติก่อน
ด้านล่างนี้คือ source code ซึ่งแสดงได้โดยแผนภาพ ซึ่งคนจีนเรียกว่า สัญลักษณ์ไท่เก็ก หรือสัญลักษณ์หยินหยาง นั้นเอง
 สีดำในไท้เก็กแทนหยิน สีขาวแทนหยาง พลังทั้งสองตรงกันข้ามกันตามธรรมชาติ แต่จะเป็นสัมพันธภาพที่เสริมซึ่งกันและกัน (งงละซี่ ฮ่าๆ) และจะประกบอยู่ด้วยกันเสมอ ไอ้เจ้า source code นี้สามารถเขียนโปรแกรมได้ในระดับจักรวาล จนถึงระดับเล็กสุดของเซลมนุษย์เลยทีเดียว (รายละเอียดลึกๆ ไปถาม อาจารย์ภาควิชาวิดวะคอมฯ เอาเองถ้าแกไม่เตะออกมาซะก่อน)

เอาเป็นว่าใครชอบ source code นี้ก็ไปหาอ่านเอาเอง หรือไปถามซินแซจีน เพราะเราจะเจาะประเด็นไปที่ การนอนกลางวัน

จะ เห็นในสัญลักษณ์นะครับว่า ในหยินมีหยาง ในหยางมีหยิน ก็คือ จุดกลมๆ ขาวดำเล็กๆ นั้นเอง ทีนี้ ถ้าเราให้วงกลม หยินหยาง นี้ แทนภาพการทำงานของ ชี่ (ตัวขับคลื่นหยินหยาง) ใน 24 ชัวโมง เราก็จะได้ วงกลมแบบนี้

จากภาพด้านบนจะเห็นว่า(ขอโทษ ภาพอั๊กลี่ ไปหน่อย แบบว่ารีบทำ) ตอนสิบเอ็ดโมงถึงบ่ายโมง ตอนนั้นร่างกายเราจะเป็นหยางสูงสุด แต่ขณะเดียวกันพลังหยิน(จุดดำเล็กๆ) ก็เริ่มก่อตัวขึ้นแล้ว ในหนังสือคัมภีร์อี้จิง ได้เรียกสภาวะนี้ว่า "หยินทารก"

ช่วงเวลา ที่หยินทารกก่อกำเนิดขึ้นนี้แหละ ที่ Dr.J ฟันธง ฉับๆ ว่าเราสมควรพักผ่อนในตอนกลางวัน หลังอาหารเที่ยง เราควรที่จะ งีบ สัก งีบ เพื่อเป็นการทะนุถนอม หยินทารกนี้ ให้ก่อกำเนิดแข็งแรงในช่วงกลางคืนต่อไป เปรียบเหมือนเราดูแลเด็กทารกที่เพิ่งคลอดอย่างดี เพื่อให้เขาโตเป็นคนที่มีสุขภาพดีในอนาคตอีก 12 ชั่วโมงข้างหน้า

พอ มาถึงช่วงกลางคืนห้าทุ่ม เราก็สมควรเข้านอนพักผ่อน ไม่ควรไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์ หรือดูทีวี (ยกเว้นคืนที่เชลซีแข่ง ฮ่า) เพราะช่วงห้าทุ่มถึงตีหนึ่ง พลังหยินจะโตเต็มวัย จะเป็นพระเอกแล้ว ร่างกายจะจิตใจเราต้องการความนิ่ง ความสงบแล้ว (ตามธรรมชาตินั้นเอง) ขณะที่เราหลับนั้น พลังหยางน้อยก็กำลังก่อตัวอยู่เช่นกัน

ทีนี้ ชัดเจนนะครับ ว่าทำไมผมจึงต้องนอนกลางวัน การนอนกลางวันจะทำให้เราหลับสนิทในตอนกลางคืน เพราะหยินของเราแข็งแรง ไม่บกพร่องนั้นเองครับ

ข้อสังเกต
- เด็กอนุบาล ครูจะให้นอนกลางวัน เพราะกลางคืนเขาจะไม่กวน และนอนหลับสบาย เพราะหยินน้อยได้รับการดูแล
- ก่อนนอนควรดื่มเครื่องดื่มร้อน (แต่ไม่ใช่เหล้าสาเกนะ ฮ่าๆ) เช่นน้ำอุ่น เพราะเป็นการถนอมหยางน้อยที่เพิ่งเกิด จะทำให้สดชื่นเวลาตื่น
- ลุงเขยผม อายุมาก แต่แข็งแรง แกตื่นเช้ามากๆ แล้วงีบตอนเที่ยง เข้านอนก่อนสี่ทุ่ม
- คนปัจจุบัน บ้าทำงาน ทำงานตั้งแต่เช้ายันค่ำ พลังหยินหยางในร่างกาย เสียสมดุลย์ ฝืนธรรมชาติ จึงเจ็บป่วยง่าย
- อารยธรรมเดิมของ จีน อินเดีย กรีก มีธรรมเนียมการพักผ่อนหลังอาหารเที่ยง
- คนปัจจุบัน เข้าใจว่า "พักผ่อน" คือจิบกาแฟ ดื่มคาเฟอีน ดูทีวีเร้าอารมณ์ กว่าจะเข้านอน ก็ทำร่างกายเสียสมดุลย์ ไปมากแล้ว

Dr.J มาเปิดเผยเบื้องหลังการถ่ายทำแล้ว เรามานอนกลางวันกันเถอะ ฮ่าๆ

ดื่มน้ำบำบัดโรค ช่วยอายุยืน

รายงานทางการแพทย์ระบุว่า การดื่มน้ำมากๆจะทำให้อายุยืน พร้อมสำรวจอาการร่างกายขาดน้ำ ยิ่งถ้าพบว่าผิวหนังแห้ง ไม่ชุ่มชื้น ตาแห้ง มีกลิ่นปาก ท้องผูก เป็นริดสีดวงทวาร นั่นแสดงว่าร่างกายของคุณกำลังขาดน้ำอย่างยิ่งเชียว
วิธีแก้แบบง่ายๆ ปลอดภัย และประหยัดที่สุดก็คือ การดื่มน้ำนั่นเอง ดื่มน้ำให้ถูกวิธี คือ ดื่มวันละ 14 แก้ว ได้แก่
1. เวลาตื่นนอนให้ดื่มน้ำอุ่น 4 แก้ว
2. ก่อนอาหารทุกมื้อ มื้อละ 1 แก้ว
3. หลังอาหารทุกมื้อ มื้อละ 1 แก้ว
4. ในเวลา 10.00, 14.00, 16.00 เวลาละ 1 แก้ว
5. ก่อนนอนดื่มน้ำอุ่น 1 แก้ว รวม 14 แก้ว
หลักการดื่มน้ำเพื่อสุขภาพไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด สามารถทำง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน โดยน้ำที่เหมาะแก่การดื่มคือ น้ำอุณหภูมิปกติไม่ร้อนหรือเย็นจัดจนเกินไป ถ้าเป็นน้ำอุ่นควรดื่มตอนเช้าเพื่อช่วยล้างลำไส้ให้สะอาด และช่วยการขับถ่ายของเสีย
เทคนิคในการดื่มน้ำเพื่อสุขภาพ ทางการแพทย์บอกว่าถ้าดื่มในช่วงพระอาทิตย์ยังไม่พ้นขอบฟ้าต้องดื่มน้ำอุ่น....แต่ถ้าพระอาทิตย์พ้นขอบฟ้าแล้วให้ดื่มน้ำเย็น เพื่อเป็นการกลับคืนสู่ธรรมชาติที่มนุษย์ทุกคนหลงลืมอิทธิพลของพระอาทิตย์พระจันทร์มานาน ถ้าทำได้ดังที่กล่าวมาประโยชน์จากการดื่มน้ำจะเกิดขึ้นกับร่างกายของคุณอย่างเห็นได้ชัด
ข้อควรจำ ไม่ควรดื่มน้ำก่อนและหลังรับประทานอาหารเสร็จใหม่ ๆ เพราะจะทำให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารเจือจางลง ส่งผลให้การย่อยไม่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ในแต่ละมื้อไม่ควรรับประทานอาหารให้แน่นจนเกินไป ควรทานแค่อิ่มพอดี แล้วรับประทานผลไม้สดเพื่อล้างคอก่อนจะจิบน้ำตามนิดหน่อยรับรองสบายท้อง ส่วนการรับประทานอาหารพร้อมกับดื่มน้ำตลอดเวลาเป็นนิสัยที่ควรเลิก ทางที่ดีควรซดน้ำแกงกลั้วคอจะดีกว่า
ที่มาของข้อมูล
http://www.dwr.go.th

น้ำช่วยบรรเทาอาการท้องผูก

น้ำสามารถช่วยไม่ให้ท้องผูก หากร่างกายได้รับน้ำน้อย ทำให้ขับถ่ายลำบาก ซึ่งทำให้เกิดท้องผูก แต่สามารถช่วยให้หายได้ โดยการดื่มน้ำให้เพียงพอ ได้มีการค้นพบว่าน้ำมีส่วนช่วยในการดูแลรูปลักษณ์ ร่างกายไม่สามารถทำหน้าที่ได้โดยสมบูรณ์หากได้รับน้ำไม่เพียงพอ โดยเฉพาะการเผาผลาญไขมันที่สะสม หากร่างกายเก็บน้ำไว้มากจะดูได้จากการที่มีน้ำหนักเกิน แต่แก้ไขได้โดยการดื่มน้ำเพิ่มขึ้น การดื่มน้ำมากขึ้นจะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยในการดูแลรูปลักษณ์ ดื่มน้ำเท่าไหร่จึงจะพอ? โดยเฉพาะควรดื่มน้ำ 8 แก้วต่อวัน อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีน้ำหนักเกินควรดื่มน้ำเพิ่มมากขึ้นอีก และจะต้องเพิ่มขึ้นอีกหากคนๆ นั้นชอบออกกำลังกายหรืออยู่ในที่ มีอากาศร้อนหรือแห้ง น้ำเย็นจะถูกดูดซึมในร่างกายได้เร็วกว่าน้ำอุ่น บางหลักฐานแนะนำว่าการดื่มน้ำเย็นจะช่วยเผาผลาญแคลลอรี่

ต้องดื่มน้ำเพื่อให้ไตทำงาน

ไตไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหากเราดื่มน้ำไม่เพียงพอ เมื่อไตไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ตับก็จะเป็นตัวที่ต้องทำงานหนักขึ้น หน้าที่หลักของตับก็คือ ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันที่สะสมในร่างกายให้เกิดเป็นพลังงาน แต่ตับต้องมาทำหน้าที่ของไต ทำให้มันไม่สามารถทำหน้าที่หลักได้อย่างเต็มที่ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เกิดการเผาผลาญไขมันได้น้อยลง และยิ่งเพิ่มการสะสมไขมันในร่างกายมากขึ้น และทำให้การดูแลรูปลักษณ์หยุดชะงักลง

“ดื่มน้ำเพื่อสุขภาพ”

ร่างกายของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่ถึง 75% ของน้ำหนักตัว เราอาจจะอดอาหารได้เป็นเดือน ๆ แต่ร่างกายไม่สามารถขาดน้ำได้เกินกว่า 3 -7 วัน การดื่มน้ำอย่างถูกต้อง จะช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตดี หัวใจทำงานปกติ และมีประสิทธิภาพแข็งแรงขึ้น ขณะเดียวกันการขับถ่ายของเสียก็ทำงานได้ดี ที่สำคัญยังช่วยให้ใบหน้าชุ่มชื่น มีเลือดฝาด และไม่ปวดหลังหรือบั้นเอว เพราะสุขภาพไตแข็งแรง
การดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว จะช่วยทำให้ปริมาณไขมันในร่างกายลดลง อาจเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่น้ำจะเป็นสิ่งสำคัญที่มีส่วนช่วยในการดูแลรูปลักษณ์ แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะต้องดื่มน้ำเพราะความจำเป็น แต่ในความเป็นจริงน้ำเป็น "อาหารอันวิเศษ " ที่ช่วยในการดูแลรูปลักษณ์อย่างถาวร